จบปัญหาท้องป่อง พุงย้วย ไม่มีเวลา ออกกำลังก็หนักแต่ไขมันหน้าท้องไม่ยุบ ลดหน้าท้องสำหรับผู้ที่อยากเผยสรีระสวย ใช้เวลาไม่นาน 

ไขมันหน้าท้อง (Visceral Fat) สะสม สาเหตุหลักของพุงป่อง เกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เรียกได้ว่าเป็นบริเวณที่ลดไขมันยากที่สุด บางคนออกกำลังกายมาเป็นระยะเวลานานก็ยังไม่สามารถลดไขมันสะสมหน้าท้องได้

ไขมันที่จับเกาะบริเวณนี้จะแทรกตัวอยู่ในอวัยวะต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าหากเรามีปริมาณไขมันสะสมมากจนเกินไป ก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ 

เมื่อมีไขมันสะสมบริเวณช่องท้องมากทำให้หน้าท้องป่อง เกิดเป็นพุงย้วย พุงป่อง นอกจากไม่น่ามองแล้ว ไขมันเหล่านี้ยังจะสลายตัวเป็นกรดไขมันอิสระและเข้าไปรบกวนการทำงานเผาผลาญกลูโคสในกล้ามเนื้อ ทำให้ปริมาณน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้น ร่างกายเกิดภาวะการดื้ออินซูลิน ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น 

โรคอ้วน มะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไขมันพอกตับ โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคนิ่วในถุงน้ำดี นอนหลับไม่สนิท หยุดหายใจขณะนอนหลับ ฯลฯ 

ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) เกิดจากการกินไขมัน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาลมากเกินไป และยังไม่ออกกำลังกายทำให้ร่างกายเผาผลาญได้น้อยจึงสะสมในบริเวณต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะบริเวณช่องท้องนั่นเอง 

ไขมันช่องท้อง  (Visceral Fat) เกิดจากอะไร

• ไขมันช่องท้องเกิดจากอาหารที่เลือกทาน 
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

ไขมันที่สะสมบริเวณช่องท้องจะไม่สามารถใช้วิธีการดูดไขมันหรือสลายไขมันได้ หากมีไขมันบริเวณช่องท้องมาก วิธีที่ดีที่สุดในการลดนั่นก็คือ การออกกำลังกายและคุมอาหาร

ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)

ไขมันสะสมจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปและร่างกายไม่สามารถเผาผลาญออกมาได้หมดจึงทำให้ไขมันจับเกาะบริเวณชั้นผิวหนัง เห็นเป็นเซลลูไลท์ (cellulite) ผิวเปลือกส้ม ทำให้ผิวย้วย ไม่เรียบเนียน สามารถดูดไขมันเพื่อลดไขมันและปรับสรีระให้หน้าท้องแบนเรียบ

หน้าท้องใหญ่ พุ่งป่องบานปลายเกิดได้จากทั้งกรรมพันธุ์ ระดับฮอร์โมนในร่างกาย พักผ่อนน้อย ความเครียด การรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้ไขมันสะสมและลดทอนระบบการเผาผลาญ เช่น ของทอด ของมัน ของหวาน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

ไขมันบริเวณหน้าท้องสามารถใช้เทคนิคการดูแลโดยแพทย์ประสบการณ์ดูดไขมันหน้าท้องออกมาเพื่อให้หน้าท้องแบนราบ เดอะยังคลินิก ยังใช้เทคนิคการดูแลผิวให้ราบเรียบ กระชับไม่หย่อนคล้อย ด้วยการดูดไขมันพร้อมระบบสั่นกระชับหน้าท้อง (J Plasma) ทำให้หลังจากการดูดไขมันหน้าท้องแบนราบเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนแม้เป็นผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยมากจากการลดน้ำหนัก หรือคุณแม่หลังคลอดบุตร 

เหตุผลที่ผู้เข้ารับบริการอยากดูดไขมันหน้าท้อง

• ไม่พอใจรูปร่าง/ขาดความมั่นใจ
• น้ำหนักลดเร็วทำให้ผิวย้วย หย่อนคล้อย
• ไม่อยากเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
• คุณแม่หลังคลอดต้องการฟื้นคืนสรีระ
• คุมน้ำหนักลดความเสี่ยงโรคภัย
• ลดไขมันด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผลอย่างที่หวัง

คุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่?

• มีหน้าท้องป่อง ยื่น พุงห้อย หน้าท้องย้วย ทำให้ขาดความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้า
• หน้าท้องย้วย เป็นลอนคลื่นหลังจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หลังคลอดบุตร 
• ไขมันหน้าท้องเกาะปริมาณมากจากวัยที่มากขึ้น
• มีปัญหาด้านสุขภาพทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายลดไขมันได้ 
• ต้องการสรีระที่สวยโดนใจ มีซิกแพค หรือ ร่อง 11 

คุณมีพุงอยู่ในเกณฑ์ไหน

สังเกตตัวเองพบว่า บริเวณหน้าท้องมีลักษณะกลม ป่อง ก้มมองแล้วไม่เห็นนิ้วเท้าตัวเอง รวมทั้งวัดรอบเอวแล้วมีขนาดใหญ่มากกว่าเดิมจนผิดสังเกต และยังสามารถคำนวนด้วยตัวเองด้วย 3 วิธีนี้

1. การวัดรอบเอว – ใช้สายวัดพันรอบเอวบริเวณใต้สะดือ หายใจออก จะได้รอบเอวปกติ (ผู้หญิงไม่ควรมีรอบเอวเกิน 32 นิ้ว ผู้ชายไม่ควรมีรอบเอวเกิน 36 นิ้ว)
2. คำนวณ Waist-to-Hip Ratio – ใช้สายวัดวัดบริเวณส่วนที่คอดที่สุดของเอว สะโพก นำขนาดที่ได้ (เซนติเมตร) มาหารกัน เช่น เอวขนาด 30 เซนติเมตร สะโพกขนาด 37 เซนติเมตร จะได้เท่ากับ 30 หารด้วย 37 = 0.81 (ผู้หญิงไม่ควรมากกว่า 0.80 ผู้ชายไม่ควรมากกว่า 0.97 )
3. คำนวณดัชนีมวลกาย (BMI : Body Mass Index)

ค่าความหมายของผล BMI ที่ได้

น้ำหนัก	BMI	ระดับความอ้วน	ความเสี่ยงต่อโรค
น้ำหนักน้อย	<18.5	–	ต่ำ
น้ำหนักปกติ	18.6-22.9	–	ปกติ
น้ำหนักเกิน	23.0-24.9	–	เสี่ยงต่อความเจ็บป่วย
อ้วน	25-29.9	1	มีผลต่อสุขภาพ
อ้วนเกินมาตรฐาน	>30	2	เข้าขั้นความเสี่ยงสูง

อยากมีรูปร่างที่ดีเพื่อความมั่นใจและสุขภาพที่ดีต้องทำอย่างไร

ออกกำลังกาย 

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ต้องสละเวลาเกือบครึ่งค่อนวันในการออกกำลัง เข้ายิมเพื่อให้มีรูปร่างที่ดีขึ้น แท้จริงแล้ว เราใช้เวลาในให้ร่างกายได้ขยับร่างกายอย่างน้อย 30-60 นาทีอย่างต่อเนื่อง เช่น การเดิน การว่ายน้ำ คาร์ดิโอ ก็ทำให้กระตุ้นการเผาผลาญให้กลับมาทำงานได้อย่างปกติ สรีระจะค่อยๆ กระชับขึ้น ซึ่งต้องอาศัยระยะเวลาและวินัยในการดูแลตัวเอง

ผู้มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก อาจมีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย ดังนั้น ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องออกกำลังกายให้หนักเป็นประจำทุกวัน เพียงออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ 2-3 วันต่อสัปดาห์ ก็กระตุ้นระบบการทำงานของร่างกายได้แล้วล่ะ 

เลือกรับประทานอาหาร

อยากสุขภาพดี ไม่มีไขมันสะสม รู้ไหมว่า จริงๆ แล้ว 

ออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ทานน้อย ก็ไม่ทำให้เกิดผลดี ตรงกันข้าม การทำเช่นนี้ทำให้ร่างกายเครียดและส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นกัน หรือแม้แต่การออกกำลังกายอย่างหนักแต่ยังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม น้ำตาล แป้ง ไขมันเลว เช่นนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และยังไม่ลดปริมาณไขมันสะสมในช่องท้อง 

การลดไขมันช่องท้องเพื่อให้พุงยุบ พุงเล็กลง ควรรับประทานอาหารชนิดดีให้ร่างกายได้รับสารอาหารอันเป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ในปริมาณที่เหมาะสม เช่น อาหารที่มีโปรตีนสูง มีไฟเบอร์ ไขมันต่ำ ร่วมกับการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อน้ำหนักตัวของแต่ละบุคคล 

เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของทอด ของมัน น้ำตาลต่างๆ

ดูดไขมันหน้าท้อง

ดูดไขมันหน้าท้อง (Abdominal Liposuction) ลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องให้เรียบ ได้สัดส่วนอย่างรวดเร็ว ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ในการดูดไขมันหน้าท้องที่สะสมบริเวณเหนือกล้ามเนื้อ เทคนิคเฉพาะคุณหมอ เดอะยังคลินิก แผลเล็ก ใช้เวลารวดเร็ว เห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีและค่อยๆ กระชับอย่างต่อเนื่องหลังพักฟื้น 

พุงห้อย พุงย้อย พุ่งป่องจะค่อยๆ กระชับอย่างรวดเร็ว สามารถใส่เสื้อครอป หรือเสื้อผ้าชุดไหนๆ ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ใช้เวลาพักฟื้นน้อยก็ได้ซิกแพคหรือร่อง 11 อย่างรวดเร็ว เหมาะมากๆ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้รูปร่างอย่างเร่งด่วน ไม่มีเวลาออกกำลังกายหรือมีปัญหาด้านสุขภาพทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายได้

คุณหมอจะทำการประเมินสรีระก่อนเข้ารับบริการเพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าผู้เข้ารับบริการควรใช้เทคนิคไหน เครื่องมืออะไรและผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร ทำให้คนไข้หลายเคสพึงพอใจหลังเข้ารับการดูดไขมันหน้าท้องและได้รับการแนะนำบอกต่ออย่างมาก 

กลัวเจ็บ กลัวเข็มดูดไขมันหน้าท้องได้ไหม

ถ้าจะบอกว่าไม่เจ็บเลย คงไม่ใช่การดูแลที่จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน แต่ต้องบอกเลยว่า “เจ็บน้อย” โดยผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกเจ็บน้อยมากๆ ในตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะแทบไม่รู้สึกเลยว่าคุณหมอกำลังทำอะไร และต้องบอกเลยว่า คุณหมอเดอะยังคลินิก มือเบามากๆ ใช้เวลาในการทำเร็วมากๆ งานละเอียด ดูดไขมันหน้าท้องได้อย่างหมดจด แผลบวมช้ำน้อยและไม่ทิ้งรอยแผลใหญ่ให้ต้องเขินอายหลังเข้ารับบริการเลย ดังนั้น ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เป็นความเจ็บที่ไม่เกินความเป๊ะของเราอย่างแน่นอน 

แต่หากมีความกังวลมาก กลัวเข็มมาก กลัวเจ็บมาก แบบนี้สามารถปรึกษาคุณหมอได้ค่ะ เพื่อให้คุณหมอได้พิจารณาว่าควรดมยาสลบหรือไม่ ทั้งนี้การดมยาสลบ ทางเรา เดอะยังคลินิก มีวิสัญญีแพทย์ดูแลด้านนี้โดยตรง ซึ่งคุณหมอจะพิจารณาการให้ยาสลบตามความเหมาะสมกับระยะเวลาในการทำและ สุขภาพของผู้เข้ารับบริการด้วย

เตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับการดูดไขมันหน้าท้อง

1. ปรึกษาแพทย์และพูดคุยทำความเข้าใจ ผลลัพธ์ที่ได้ สอบถามข้อสงสัยต่างๆ เพื่อความชัดเจนโดยละเอียด 
2. ก่อนเข้ารับบริการควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงบสูบบุหรี่ 
3. กรณีที่มีปัญหาด้านสุขภาพ โรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยาใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ งดการรับประทานยาแอสไริน หรือยาแก้ปวดอื่นๆ กรณีที่ต้องกินยาใดเป็นประจำควรแจ้งแพทย์ให้ทราบเพื่อประเมินและพิจารณาก่อน
4. งดการทานอาหารเสริม เช่น น้ำมันตับปลา วิตามินซี อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับบริการ 
5. เข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับบริการ 

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังเข้ารับบริการ

1. หลังเข้ารับการดูดไขมันอาจมีแผลฟกช้ำเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นอาการปกติที่พบขึ้นได้ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น
2. งดการออกกำลังกายอย่างน้อย 2 อาทิตย์
3. สวมชุดกระชับตามคำแนะนำของแพทย์
4. ปฏิบัติตามคำแนะนำ และเข้าพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด  

รีวิวเคสเข้ารับการดูดไขมันหน้าท้อง

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมควรดูดไขมันหน้าท้อง

การดูดไขมันหน้าท้อง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในสรีระมากขึ้น รวมทั้งสามารถสวมใส่เสื้อผ้าและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว หลังจากที่หน้าท้องมีไขมันลดลง หน้าท้องที่ยื่น ป่อง จะแบบราบลง

ดูดไขมันหน้าท้อง พักฟื้นกี่วัน

หลังจากดูดไขมันไปแล้ว จะรู้สึกเจ็บเสียดบริเวณหน้าท้องเล็กน้อย อาจทำให้ใน 1-2 สัปดาห์ รู้สึกจุกเหมือนซิทอัพอย่างหนัก โดยผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกกำลังกายอาจรู้สึกมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยใช้เวลาในการพักฟื้น 1-2 สัปดาห์ ก็จะทำให้ความรู้สึกเจ็บลดลง

ดูดไขมันหน้าท้องเจ็บไหม

ถ้าจะบอกว่าไม่เจ็บเลย นั่นคงไม่จริงใจในการตอบคำถามอย่างแน่นอน การผ่าตัดหรือทำการใดๆ ย่อมต้องมีความรู้สึกอย่างแน่นอน เพียงแต่จะรู้สึกเจ็บน้อย หรือ ชาบริเวณที่ทำอยู่บ้าง ขณะทำแพทย์จะให้ยาชาหรือยาสลบทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ และหลังจากดูดไขมันหน้าท้องเสร็จแล้ว หากรู้สึกเจ็บ สามารถทานยาแก้ปวดบรรเทาอาการได้ และความรู้สึกจะค่อยๆ ดีขึ้นตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล เพื่อหน้าท้องแบนราบ ความเจ็บคุ้มค่าต่อผลที่ได้