ปั้นหุ่นใหม่โดยไม่ต้องออกกำลังกาย – liposuction

การออกกำลังกายไม่เพียงพออาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคมะเร็ง แต่การออกกำลังอย่างหักโหมมากเกินไป ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้มีปัญหาสุขภาพ

การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยบางโรค แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่มีปัญหาสุขภาพ การออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก หรือลดไขมันสะสมอาจไม่ตอบโจทย์

ไขมันสะสมเกิดได้จาก กรรมพันธ์ุ ทานอาหารไขมัน คาร์โบไฮเดตและน้ำตาลมากเกินไป ขยับร่างกายน้อยทำให้การเผาผลาญทำงานได้ลดลง

ในผู้ที่ต้องการปั้นหุ่น ปรับสรีระให้สวย รวมถึงต้องการลดไขมันสะสม ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-3 เดือนแรก และออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องโดยควรใช้เวลาออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ 5 วันต่อสัปดาห์

การออกกำลังกายมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่

• คาร์ดิโอ (cardio) – เพื่อกระตุ้นความแข็งแรงของระบบไหลเวียน หัวใจ ปอด กระตุ้นการเผาผลาญ ลดน้ำหนัก
• เวทเทรนนิ่ง (weight training) – จุดประสงเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อแต่ละส่วน

ป่วยโรคไหนบ้างควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนออกกำลังกาย

ผู้ป่วยโรคหัวใจ (Heart disease)

การออกกำลังกายควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และไม่ควรใช้เวลานาน หรือเมื่อรู้สึกเหนื่อย ควรหยุดพักทันที 

การออกกำลังกายที่ผู้ป่วยโรคหัวใจควรหลีกเลี่ยง

• ฟุตบอล
• บาสเกตบอล
• ยกน้ำหนัก

อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอันเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาด หัวใจวายเฉียบพลัน

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน (Diabetes)

การออกกำลังกายที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง

• งดออกกำลังกายก่อนนอน ลดความเสี่ยงผลกระทบต่อภาวะน้ำตาลในโลหิตต่ำ
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องใช้กล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดอินซูลิน อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงการแข่งกีฬาทุกชนิด

ผู้ป่วยโรคเบาหวาน สามารถออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน การวิ่งเบาๆ ปั่นจักรยานช้าๆ ว่ายน้ำแบบสนุกสานไม่ใช้แรงมาก

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง (Hypertension)

ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง สามารถออกกำลังกายที่ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น กระตุ้นการทำงานของหัวใจในกลุ่มคาร์ดิโอ เช่น 

• การเต้น
• การเดินเร็ว
• ปั่นจักรยาน
• ว่ายน้ำ

นอกจาก 3 โรคนี้ ยังมีกลุ่มผู้ป่วยในโรคอื่นๆ อีกจำนวนไม่น้อย ที่ควรใส่ใจสุขภาพและเลือกการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงต่อชีวิตและอาจเป็นการทำร้ายตัวเองให้สุขภาพทรุดโทรมมากยิ่งขึ้น 

ออกกำลังกายแค่ไหนจึงจะดีต่อคุณ

ตารางชีพจรสูงสุดของแต่ละวัย Max Heart Rate (MHR)

ช่วงอายุ	ค่าชีพจร	60%	80%
20	200	120	160
30	190	114	152
40	180	108	144
50	170	102	136
60	160	96	128

การออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 20-30 นาทีต่อวันและไม่ควรให้ค่าชีพจรเกินกว่าตารางกำหนด (ตามช่วงอายุ)

หากพบว่าคุณมีปริมาณไขมันสะสมมากจากการที่ไม่สามารถออกกำลังกายหนักได้ด้วย การเวทเทรนนิ่ง (การออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ) การคาร์ดิโอ (ช่วยลดไขมันทั่วร่างกาย) 

ต้องการปรับสรีระ ปั้นหุ่นใหม่ให้มั่นใจโดยไม่ออกกำลังกาย ก็สามารถปรึกษาแพทย์ในการสลายไขมันด้วยเครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ในการสลายไขมัน 

การดูดไขมัน เป็นการสลายไขมันในรูปแบบการผ่าตัด ลดไขมันสะสมเฉพาะส่วน เช่น ดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันต้นแขน ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันหนอกคอ หรือดูดไขมันนมน้อย อันเป็นบริเวณที่ส่งผลต่อสรีระไม่สมส่วน ทำให้เห็นก้อนไขมันที่เผละล้นจากขอบชุดชั้นใน เสื้อผ้า และบางคนก็เห็นเป็นผิวเปลือกส้ม (cellulite) ทำให้ไม่สวยงาม บั่นทอนความมั่นใจ

กรณีที่มีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ฯลฯ สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้ารับการประเมินสุขภาพก่อนว่าสามารถเข้ารับการดูดไขมันได้หรือไม่

ใครควรปรึกษาแพทย์โดยละเอียดก่อนเข้ารับการดูดไขมัน

• ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่อยู่ในระหว่างการทานยา
• ผู้มีประวัติแพ้ยาสลบ หรือครอบครัวมีประวัติแพ้ยาสลบ
• ผู้มีไขมันสะสมในช่องท้อง
• ผู้ติดเชื้อ HIV
• ผู้ป่วยโรคไทรอยด์
• ผู้มีผิวหย่อนคล้อย ต้องการสลายไขมันและกระชับผิวให้กระชับ